The Food School Bangkok

MENU

ขิง vs ข่า ต่างกันอย่างไร

ขิง vs ข่า ต่างกันอย่างไร

ขิง (ginger) และข่า (galangal) เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน (Zingiberaceae) แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้านรสชาติ, กลิ่น, รูปลักษณ์, และการนำไปใช้ในการปรุงอาหาร

ขิง

ขิงมีรสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว เนื้อด้านในมีสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม ผิวขิงมีลักษณะเรียบเนียนกว่าข่า และมีข้อปล้องที่สั้นกว่า นิยมใช้เป็นส่วนผสมในอาหารหลายชนิดทั้งคาวและหวาน เช่น ต้มยำ, ผัดขิง, ข้าวต้มปลา หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มอย่างน้ำขิง และของหวานอย่างเต้าฮวยน้ำขิง

ข่า

ข่ามีรสชาติเผ็ดร้อนน้อยกว่าขิง แต่มีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์และไม่ฉุนเท่า เนื้อด้านในมีสีขาวอมชมพูหรือเหลืองอ่อน ผิวของข่าจะแข็งและมีรอยย่นมากกว่าขิงอย่างเห็นได้ชัด และมีข้อปล้องที่ยาวกว่า ข่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทย โดยเฉพาะเมนูต้มต่างๆ เช่น ต้มยำ, ต้มข่าไก่, หรือแกงป่า เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ

ลักษณะการเจริญเติบโตและการเพาะปลูก

  • ขิง ชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี ชอบสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น โดยเฉพาะในเขตร้อนและกึ่งร้อน

  • ข่า มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมมากกว่าขิง สามารถเติบโตได้ดีในดินที่หลากหลายและทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดีกว่า

สรรพคุณทางยาและการใช้ประโยชน์ 

  • ขิง มีสรรพคุณเด่นในด้านการบรรเทาอาการคลื่นไส้, อาเจียน, และช่วยย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการปวดได้

  • ข่า มีสรรพคุณเด่นในการขับลมในลำไส้, แก้ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, และใช้เป็นยาแก้โรคกลากเกลื้อนได้ โดยฤทธิ์ทางยาของข่าจะช่วยลดการอักเสบและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย

การนำไปประกอบอาหาร 

  • ขิง มักใช้ในอาหารที่ต้องการกลิ่นหอมและรสชาติที่นุ่มนวลกว่า เช่น ผัด, นึ่ง, หรือทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • ข่า เหมาะสำหรับเมนูที่มีรสจัดจ้านและมีกลิ่นหอมที่ซับซ้อน เช่น แกง, ต้มยำ, ต้มข่าไก่ โดยมักใช้ส่วนหัวอ่อนที่ยังไม่แก่จัดเพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่ดีที่สุด
ginger